nisarat

                                My Project  “ ครีมหน้าใสปลอดภัยจริงหรอ?”     หลักการและเหตุผล           เมื่อพูดถึงผู้หญิงก็จะพูดถึงเรื่องความสวยความงามกันแน่นอน ในสมัยนี้ผู้หญิงหลายๆคนก็อยากมีหน้าใสหน้าขาวเพราะคิดว่าเป็นค่านิยมที่ใครหลายๆคนต้องการ แต่การที่จะให้หน้าใสงั้นมันก็มีหลายวิธีแตกต่างกันไป บางคนก็ใช้วิธีทานอาหารเสริมทานผักผลไมอที่มีประโยชน์ ส่วนบางคนก็อยากจะมีหน้าใสไวๆก็เลือกที่จะไปคลีนิคเสริมความงามหรือเลือกเป็นวิธีใช้ครีมจากยี่ห่อต่างที่อาจมีสารเคมีปนเปือน ซึ่งจะรู้ได้อย่างไรว่าครีมพวกนั้นมันปลอดภัย       จุดประสงค์  1 . เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกว่าจะใช้ครีมเหล่านั้นหรือไม่ 2.ช่วยลดความเสี่ยงของผู้ที่จะใช้แล้วเกิดอาการแพ้ วิธีการตรวจหาสารไฮโดรควิโนน 1. นำครีมตัวอย่างป้ายใส่กระดาษทิชชู่ สังเกตสีเเละกลิ่นของครีมนั้นๆ   ถ้าเนื้อครีมไม่ขาว มีสีแปลกๆ หรือเปิดมาปุ๊บได้กลิ่นฉุน หรือได้กลิ่นน้ำหอมเเรงๆ(เพื่อกลบกลิ่นสารเคมี)เป็นไปได้ว่าอาจมีสารปรอทนะคะ 2. นำผงซักฟอกเข้มข้น (ละลายน้ำ ใส่น้ำเเค่นิดเดียว) หยดใส่กระดาษทิชชู่ที่ป้ายครีมไว้ 3. ทิ้งไว้ซักพัก สังเ

 สวัสดีค่ะวันนี้เราก็จะมาพูดถึงเรื่องขนมกันอีกแล้ว วันนี้ก็จะนำเสนอขนมที่หลายๆคนอาจจะรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ ขนมกล้วย ที่ฉันรู้จักขนมนี้ก็เป็นเพราะเมื่อก่อนสมัยเด็กๆหลังบ้านยายจะปลูกต้นกล้วยไว้ พอมันสุกก็จะเอาทำขนมให้ทาน แต่เดี๋ยวนี้ค่อนข้างหาทานยากมากๆเพราะยายฉันก็ไม่ค่อยได้ทำแล้ว  วันนี้ฉันก็มีสูตรทำขนมกล้วยง่ายๆมาฝาก ไปดูกันมาส่วนประกอบและวิธีทำมีอะไรบ้าง   ส่วนผสม: กล้วยน้ำว้า 10 ใบ บดละเอียด แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง น้ำตาล 1 1/4 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/2 ช้อนชา หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง ในส่วนของส่วนผสมนี่ก็สามารถหาซื้อกันได้ง่ายๆเลย วิธีทำ: นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงไปในชามผสม เหลือเนื้อมะพร้าวไว้ 1/4 เอาไว้โรยหน้าในตอนท้าย นวดส่วนผสมทั้งด้วยมือจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ตักส่วนผสมลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ แต่จะให้ดีใช้กระทงใบตองดีกว่า เพื่อเพิ่มความหอมคงคอนเซปต์ของขนมไทย เสร็จนำมะพร้าวขูดที่เหลือโรยหน้าขนม นำไปนึ่ง 30 นาที หรือนำไปอบก็ได้เช่นกัน ใช้ความร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 30 นาที เสร็จยกลงหม้อนึ่งจัดจานเสิร์ฟได้เลยค่ะ ขนมกล้วยนี้จะทานตอน

เมื่อพูดถึงมาการง หรืออีกชื่อหนึ่งที่คนไทยรู้จักกันในชื่อมาการอง หลายๆคนคงทราบว่าเป็นขนมของประเทศฝรั่งเศส แต่ถ้าเกิดอยากทานขึ้นมาก็ไม่ต้องไปถึงฝรั่งเศสแค่อยู่ที่บ้านก็ทำทานได้เอง มาดูขั้นตอนและวิธีทำมาการงกันเลย ส่วนผสม: -อัลมอนด์ป่น 125 กรัม -น้ำตาลไอซิ่ง 150 กรัม -สีผสมอาหารชนิดผงสีแดง 1/4 ช้อนชา -ไข่ขาว (1) 55 กรัม -สีผสมอาหารชนิดผงสีเหลือง 1/4 ช้อนชา -ไข่ขาว (2) 55 กรัม -น้ำตาลทราย 150 กรัม -น้ำเปล่า 40 กรัม -ไข่ขาว (3) 55 กรัม วิธีทำ             ใส่อัลมอนด์ป่นกับน้ำตาลไอซิ่งลงในเครื่องบดอาหาร             ปั่นอัลมอนด์ป่นกับน้ำตาลไอซิ่งแค่พอเข้ากัน (ตามภาพ)            นำไปร่อนใส่ลงในอ่างผสมแล้วแบ่งเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน            ใส่สีผสมอาหารชนิดผงสีแดงลงไปในอัลมอนด์ส่วนที่ 1 คนผสมให้เข้ากัน            ใส่ไข่ขาว (1) ลงไปคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้            ใส่สีผสมอาหารชนิดผงสีเหลืองลงไปในอัลมอนด์ส่วนที่ 2 คนผสมให้เข้ากัน             ใส่ไข่ขาว (2) ลงไปคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้                       ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายกับน้ำลงในหม้อ นำไ

“เอ็นทรานซ์ 4.0”  เป็นกระแสข่าวที่ทำเอาเด็ก ม.5  ที่จะต้องวางแผนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยช็อคตามๆ กัน จากเดิมที่กำลังจะเริ่มวางแผนเตรียมอ่านหนังสือสอบแล้ว เพราะคาดการณ์ว่าจะต้องสอบตั้งแต่ ต.ค. 60 (ถ้าระบบการสอบไม่เปลี่ยนแปลง ก็มีทั้งสนามสอบแอดมิชชั่น, ความถนัดแพทย์, วิชาสามัญ, โควตา มข.,โควตา ม.อ., โควตา มช. รวมถึงสนามสอบรับตรงอีกหลายๆ ที่) แต่ข่าวการปรับระบบการสอบใหม่ เป็นระบบที่เรียกว่า  “เอ็นทรานซ์ 4.0”  หรือ  “เอ็นทรานซ์ 61”  เป็นระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของปี 2561 ที่ ปรับเปลี่ยนให้สอบที่มีแนวคิดว่า ระบบสอบ (ข้อสอบ) เดือน มี.ค.-เม.ย. (หลังเรียนจบม. 6) จะมีการจัดสอบสนามต่าง ๆ เช่น 9 วิชาสามัญ GAT/PAT (มีการสอบ 1 ครั้ง) ข้อสอบเฉพาะของสาขาวิชา ข้อสอบตามความต้องการของมหาวิทยาลัย ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศเทศไทย ได้ประชุมพิจารณาร่วมกันในการปรับกระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแบบใหม่ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป ด้วยหลักการดังนี้ 1. นักเรียนควรอยู่ในห้องเรียนจน จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2.  นักเรียนแต่ละคนมีเพียง 1 สิทธิ์  ในการตอบรับ ในสาขาวิชาที่เลือก

หลายๆคนคงอาจเคยรู้จักบุคคลที่มี2บุคลิกในคนๆเดียว อาการก็จะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย กำลังหัวเราะอยู่ดีๆก็อาจเปลี่ยนความรู้สึกเป็นร้องไห้โดยทันที มาดูกันค่ะว่าอาการของโรคนี้เป็นยังไงและมีแนวทางการแก้ไขอย่างไร        " โรคไบโพลาร์ (Bipolar)"  เป็นโรคที่จัดอยู่ในกลุ่มโรคทางด้านเรื่องอารมณ์ กลุ่มเดียวกับโรคซึมเศร้า คือ โรคอารมณ์ที่ชัดเจน ที่มีอารมณ์เบื่อเศร้า แต่โรคไบโพลาร์ จะมีลักษณะที่มีอารมณ์ช่วงหนึ่งจะมีลักษณะรื่นเริง สนุกสนานสลับกับอารมณ์ซึมเศร้าอีกช่วงหนึ่ง         โรคนี้มีหลายชื่อ เช่น โรคอารมณ์แปรปรวน , manic-depressive disorder, bipolar affective disorder, bipolar disorder ในปัจจุบันชื่อเป็นทางการคือ โรคไบโพล่าร์ (bipolar disorder) ลักษณะสำคัญของโรคนี้คืออาการผิดปกติของอารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นแบบซึมเศร้า (depression) หรือตรงข้ามกับซึมเศร้าคืออารมณ์ดีผิดปกติ (mania) ก็ได้          โรคไบโพล่าร์นั้นมักเริ่มเป็นก่อนวัยกลางคน บางรายเริ่มเป็นตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี แต่ก็มี บางรายที่มาเริ่มเป็นหลังอายุ 40 ปีได้ โรคไบโพล่าร์เป็นโรคที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมมาเกี่ยวข้อง ค่อนข้า

บทความนี้เราจะไปเรียนรู้   “สุภาษิตและสำนวนในภาษาอังกฤษ”  กัน ซึ่งเป็นสำนวนที่มาจากหลายๆประเทศและหลายๆแห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันค่ะ It is a rough road that leads to the heights of greatness.  -หนทางไปสู่ความยิ่งใหญ่ ย่อมต้องฟันฝ่าอุปสรรค If you want to throw a stone, every lane will furnish one.  -โอกาสทำชั่วเกิดขึ้นได้ง่ายทุกเวลา * It is better to be envied than pitied.  -ถูกมองอย่างอิจฉา ดีกว่าถูกมองอย่างสมเพช The best fish swims near the bottom.  -ของดีมีค่าต้องค้นหาจึงจะเจอ It’s harder to conquer one’ own ambitions than it’s to slay a dragon.  -ฆ่ามังกรยังง่ายกว่าดับตัณหาในตัวเอง The used key is always bright. ( Practice makes perfect. )  -การฝึกฝนอยู่เสมอทำให้เกิดความชำนาญ Don’t let the grass grow under your feet.  -อย่าให้ความเกียจคร้านเป็นอุปสรรคในการทำงาน To accomplish great deeds one must have knowledge as well as courage.  -ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่กำลังใจและปัญญา An empty hand is no lure for a hawk.  -ไม่มีใครได้อะไรโดยไม่ต้องลง

เชื่ิอว่าใครหลายๆคนต้องชอบทานเค้กช็อกโกแลตแน่นอน วันนี้มีวิธีทำเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มให้คนที่สนใจกันด้วย ไปดูกันเลยว่าส่่วนผสมและวิธีการทำมีอะไรบ้าง ในส่วนของส่วนผสมก็จะประกอบด้วย 1.ผงวุ้น 1 ช้อนชา 2. น้ำ 250 กรัม 3. นมสดหรือนมจืด 250 กรัม 4. น้ำตาลทราย 160 กรัม 5. ผงโกโก้ 30 กรัม 6.แป้งข้าวโพด 30 กรัม 7.เนยสดเค็ม 70 กรัม 8. วานิลา1 ช้อนชา วิธีการทำนะคะ  1.ผสมผงวุ้นกับน้ำ แล้วพักไว้ 10 นาที หลังจากนั้น นำผงโกโก้และข้าวโพด เทลงชามผสม ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน แล้วค่อยๆเติมนมลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลาลงไปผสมจนเข้ากัน 2.นำหม้อที่ผสมน้ำกับผงวุ้นพักไว้ตั้งไฟกลางๆจนเดือดและผงวุ้นละลาย หลังจากนั้นนำส่วนผสมเมื่อสักครู่เทลงไป คนจนข้นขึ้น พอข้นแล้วก็ดับเตาแล้วเติมเนยลงไป คนให้เข้ากัน นำออกมาคนต่อข้างนอก อย่าคนเร็วหรือแรงไปเพราะจะทำให้เกิดฟองอากาศเยอะนะคะ ถ้าอยากให้อุ่นเร็วก็นำไปคนในชามน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดค่ะ 3.พออุ่นแล้ว ก็ราดลงแผ่นเค้กที่หั่นแบ่งครึ่งเตรียมไว้ ปาดๆให้ทั่วเค้ก พักให้เซตตัวสัก 5 นาที หลังจากนั้นก็นำอีกแผ่นมาประกบเข้าด้วยกัน

      วันวาเลนไทน์  14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก  Valentine's Day  เรามีประวัติวันวาเลนไทน์ สัญลักษณ์วันวาเลนไทน์ ของขวัญวาเลนไทน์ ธรรมเนียมถือปฏิบัติ มาฝาก                วันวาเลนไทน์  คงเป็นวันที่ใครหลาย ๆ คนรอคอย... โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ตื่นขึ้นมา พร้อมรอยยิ้ม เพื่อเตรียมของขวัญ คำหวาน และข้อความพิเศษ ๆ มอบให้กับคนรักอย่างแน่นอน..  และในโอกาสวาเลนไทน์วันแห่งความรักวันนี้ กระปุกดอทคอมก็ไม่พลาดหยิบยกเรื่องราวของวันวาเลนไทน์มาฝากกันอีกเช่นเคย มาดูกันซิว่า วันวาเลนไทน์เกิดขึ้นได้อย่างไร และชาวตะวันตกทำอะไรกันบ้างในวันสำคัญสำหรับชาวคริสต์วันนี้           สำหรับ ประวัติวันวาเลน     ไทน์ นั้น หลาย ๆ คนคงสงสัยว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เหตุเป็นเพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้น เป็นวันเสียชีวิตของนักบุญวาเลนไทน์ หรือเซนต์วาเลนไทน์ นักบุญแห่งความรักนั่นเอง นักบุญวาเลนไทน์ เป็นผู้ริเริ่มการจัดงานแต่งงานในยุคที่ไม่นิยมให้แต่งงานกัน เหตุเพราะในช่วงนั้น โรม ต้องประสบกับสงคราม จักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ต้องการเกณฑ์คนไปรบ แต่มีบุคคลจำนวนมากที่มีครอบครัว มีภรรยา มีคนรัก ต่างไม่อยากจะทิ